ON TOUR…ปลายฝน…ต้นหนาว เป็นช่วงฤดูหนึ่งที่นักท่องเที่ยวปารถนา อากาศดี ขี่รถสบายๆ ฝนปรอยๆ บ้าง ลมหนาวปะทะบ้าง! คนไม่ใช่นักไรเดอร์? ไม่มีทางได้สัมผัสบรรยากาศเยี่ยงนี้หร๊อก!
ฉบับนี้ผมได้รถ ฮอนด้า CB 1000 R ใช้เป็นรถเดินทางกับชาวคณะ! มันช่างเหมาะเจาะ และลงตัวเสียเหลือเกิน ด้วยสรีระของรถที่เพียวบาง แต่แฝงด้วยพละกำลัง! ทำให้การขับขี่สนุก…บิดติดมือ! พลิกพริ้ว ผมว่าขี่สนุกเลยทีเดียวสำหรับรถรุ่นนี้ เดินทางได้ ทำเวลาได้ เบ็ดเสร็จในคันเดียว!
ฉบับนี้ผมจะพาท่านผู้อ่านไปเที่ยวจังหวัด “ปราจีนบุรี” ไม่ไกลกรุเทพฯ และมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย แต่เสียดายที่บางที่ บางจุดขาดการดูแล เอาใจใส่ ทำให้เสื่อมโทรมน่าเสียดาย สถานที่แรกเลยที่ผมจะพาไปแวะ…อาจจะไม่เป็นที่เที่ยวของใครหลายคน และอาจจะเป็นที่น่าสนใจของใครหลายคน
โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี และ พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี เป็นโรงพยาบาลศูนย์ประจำจังหวัดปราจีนบุรี และเป็นโรงพยาบาลนำร่องเรื่องการแพทย์แผนไทย ใช้สมุนไพรบำบัดรักษาโรค มีการนวด อบ ประคบ และฝังเข็ม แปรรูปสมุนไพรไทยเป็นเวชภัณฑ์ ตั้งอยู่ที่ ตำบล ท่างาม อำเภอเมืองปราจีนบุรี
ภายในถูกจัดแต่งไว้อย่งสวยงาม หอมชื่นใจกลิ่นสมุนไพรไทย มีน้องๆ นักศึกษาให้ความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับยาและสมุนไพร มีสินค้าที่เกี่ยวกับยา และสมุนไพรน่าสนใจ ผ่านมาจังหวัดนี้ ไม่น่าพลาดที่จะแวะมาที่นี่ แค่เวลคัมดริ้งก็ชื่นใจ หายเหนื่อยแล้วครับ
วัดแก้ววิจิต พระอารามหลวง สถานที่ยอดนิยมของชาวปราจีนบุรีและนักท่องเที่ยว ที่มักแวะเวียนกันมาชมความงดงามของพระอุโบสถ สักการะหลวงพ่ออภัย และให้อาหารปลาบนแพรริมแม่น้ำที่ยังใสสะอาด
สะดุดตาดวยสีสันสดใสของอุโบสถ ที่ใช้สีหวาน โทนสีชมพู เป็นสีพระอาราม เดินทางง่าย ไม่ซับซ้อน ภายในวัดบรรยากาศดี ร่มรื่น มีหลากหลายสถานที่ที่ให้ได้เดินชม และสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ อีกสถานที่หนึ่งที่ไรเดอร์ จะสามารถขี่รถมาแวะเที่ยว และทำบุญได้ง่าย
ออกจากเมืองไม่ไกลนัก หลังจากเที่ยวแบบอินดอร์กันจนสะใจ ผมจะพาท่านผู้อ่าน และนักไรเดอร์ เที่ยวน้ำตกเลื่องชื่อ ผมได้ยินมาตั้งแต่สมัยผมยังเยาว์ เพราะน้าชายชอบที่นี่มาก “น้ำตกเขาอีโต้” แต่พอได้มาสัมผัสแล้ว อดเสียดายแทนคนพื้นที่ไม่ได้ เพราะที่นี่ขาดการบำรุงรักษา และพัฒนาให่เหมาะสมกับเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทั้งๆ ที่โลเกชั่นก็สวยงาม น้ำตก ก็น่าสนใจ แบ่งเป็นชั้น เป็นขั้นบันได แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยว หลากวัยใขช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เพราะด้วยบรรยากาศที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ และมุมสบายๆ หลายมุมที่น่าพักเหนื่อย แต่ถ้าจะให้สมบูรณ์แบบ ทางการที่เกี่ยวข้องน่าให้ความสำคัญ พัฒนา และปรับปรุงให้สมกับเป็นซิกเนเจอร์ของจังหวัดมากกว่านี้
ปิดท้ายทริปนี้อย่างที่ผมตั้งใจไว้ ต้องแวะที่นี่ “พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ” หรือสมัยก่อนผมเรียกว่า พิพิธภัณฑ์บ้านตะเกียง! อยู่ห่างจากตัวเมืองปราจีนบุรีประมาณ 6 กิโลเมตร ที่นี่ถูกจัดวางด้วยของเก่า เรื่องราวน่าสนใจ โดยเน้นไปที่ตะเกียงกว่า 10,000 ดวง ซึ่งเป็นตะเกียงที่หายาก และหาไม่ได้อีกแล้วในสยามประเทศ ถูกรวบรวมเอาไว้ให้ลูก หลาน เหลน โหลน ได้รู้จักเครื่องมือส่องสว่างที่สุดคลาสสิคในอดีต นอกจากตะเกียงแล้วยังมีของเก่า หลายสิ่งที่น่าสนใจ ทั้งของแต่งบ้าน รถ พระ โอ่ง ตุ่ม ไห และอื่นๆ อีกมากมาย ที่ถูกจัดแบ่งเป็นโซน ให้เลือกดู เลือกชมได้โดยง่าย แถมท้ายด้วยความน่ารักของ ลูกแพะ และจรเข้ ที่เพิ่มขึ้นมาให้ความบันเทิงแก่ผู้เข้าชม นอกเหนือจากการสาธิต และให้ความรู้เกี่ยวกับการจุด และดับตะกียงของเจ้าหน้าที่ น่าสนใจอีกหนึ่งสถานที่ครับ
สำหรับนักไรเดอร์ ที่สนใจ หรือชื่นชอบ แบบบรรยากาศ ขี่รถตะเวนเที่ยว วันเดียวไปได้หลายที่ ทั้งกิน ทั้งเที่ยว แบบสนุกสนาน ได้ใจแฟน เที่ยวได้ครบรส ติ้งติดตามเราครับ เราจะรับอาสาพาทัวร์ แบบฉบับของนักไรเดอร์ แบบว่า เที่ยวสนุก ถูกสตางค์ เที่ยวทั่วไทย ไม่ต้องเที่ยววันหยุดก็สนุกได้ครับ ฉบับหน้าพบกันใหม่ เราจะตะเวนพาเที่ยวไปในดินแดนแห่งความสุข “ไทยแลนด์ แลนด์ออฟสมาย” สวสดีครับ!